รู้ไม่รู้ มาบล็อกนี้ รู้แน่นอน รู้หรือไม่ อะไรเอ่ย ? บล็อกนี้สร้างเพื่อนำเอาความรู้เพิ่มเติมมาให้ผู้อ่านได้ทราบกันจ้ะ อย่าลืมกดถูกใจล่ะ ขอบคุณค่าปป ^^ ยังไงก็ศึกษากันอย่างละเอียดรอบคอบด้วย ใช้วิจารณญานในการรับข่าวว มีลิงค์ข้อสอบให้เพื่อนๆด้วย.
ถึงผู้อ่าน ~~
ข้อความยาวบ้าง สั้นบ้าง แต่ก็ให้ข้อมูลและสาระไว้เยอะเลย อ่านได้จ้ะ เอามาให้ทุกคนได้อ่านกัน
วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556
รู้ไว้ใช่ว่า? กินแล้วนอน บรื๋ออ ~
คนเราสามารถนอนหลับโดยไม่กินอะไรเลยได้ติดต่อกันนานถึง 11 วัน แต่ถ้าหากกินแล้วไม่ได้นอนติดต่อกัน 11 วัน วันที่ 12 คุณจะนอนหลับไหลโดยไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกเลย
รู้ไว้ใช่ว่า? เล็บมือยาวจัง
ยิ่งคนเราตัดเล็บบ่อย เล็บก็จะยิ่งยาวเร็วขึ้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราตัดเล็บมือบ่อยกว่าเล็บเท้า
รู้ไว้ใช่ว่า? เส้นผมคนเรา
คนที่มีผมบลอนด์จะมีจำนวนผมมากกว่าคนที่มีผมสีอื่น โดยในขณะที่คนผมสีดำและน้ำตาลจะมีผมประมาณ 100,000-110,000 เส้น แต่คนผมบลอนด์จะมีผมมากถึง 146,000 เส้นเลยทีเดียว ส่วนคนผมแดงนั้นมีผมน้อยสุดที่ประมาณ 86,000 เส้น
รู้ไว้ใช้ว่า? การกรน คร่อกๆ
ในช่วงอายุ 60 ปี ผู้ชายกว่า 60% และผู้หญิง 40% จะนอนกรน และเสียงกรนปกติจะดังประมาณ 60 เดซิเบล และสามารถดังได้มากกว่า 80 เดซิเบลด้วยซ้ำในบางคน
รู้ไว้ใช่ว่า? น้ำลายจริงหรือ
แม้น้ำลายจะอยู่ภายในปากเล็ก ๆ ของเรา แต่เชื่อไหมว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ผลิตน้ำลายมากพอที่จะเติมเต็มสระว่ายน้ำได้ 2 สระเลยล่ะ
รู้ไว้ใช่าว่า? เส้นเลือดแสนยาวไกล
เส้นเลือดในร่างกายของคนเรามีความยาวรวมทั้งหมดราว 96,500 หรือเกือบแสนกิโลเมตร ขณะที่หัวใจของเราทำงานหนักมากในแต่ละวัน เพราะต้องสูบฉีดเลือดถึงวันละ 2,000 แกลลอนเลยทีเดียว
รู้ไว้ใช่ว่า? การจาม
ลมที่ออกมาจากปากเวลาจาม มีความเร็วไม่ต่ำกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยไม่แปลกที่เมื่อคุณอุดจมูกหรือปากเวลาจาม ลมก็จะหาทางออกทางอื่น และทำให้หูอื้อได้
รู้ไว้ใช่ว่า? กลิ่นตัว
กลิ่นตัวของเราเกิดขึ้นเพราะเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณเท้าจะขับเหงื่อออกมาเป็นจำนวนมาก เพราะมีต่อมเหงื่ออยู่ถึง 50,000 ต่อมเลยทีเดียว
รู้ไว้ใช่ว่า? แบคทีเรียบนผิวหนัง
ทุกตารางนิ้วของผิวหนังเรามีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ คือประมาณ 32 ล้านตัว และมันพร้อมที่จะทำให้คุณป่วยได้อย่างง่ายดาย
รู้ไว้ใช่ว่า? การได้กลิ่นของมนุษย์
มนุษย์เราแม้จะไม่มีความสามารถในการดมกลิ่นดีเท่ากับสุนัข แต่ก็สามารถจดจำกลิ่นที่แตกต่างกันได้ถึง 50,000 กลิ่นเชียวนะ
รู้ไว้ใช่ว่า? การย่อยอาหาร
มนุษย์เรามีระบบย่อยอาหารใหม่ทุก 3-4 วัน เป็นปกติ ถ้าหากไม่มีการสร้างระบบย่อยอาหารมาทดแทนแล้ว น้ำย่อยจะย่อยกระเพาะอาหารได้เลยทีเดียว
รู้ไว้ใช่ว่า? กระดูกคน
มนุษย์เรามีชิ้นส่วนกระดูกลดลงเมื่อเติบโตขึ้น คนเราจะมีกระดูกราว ๆ 350 ชิ้นเมื่อแรกเกิด และเมื่อเติบโตขึ้นจะค่อย ๆ ประสานหลอมรวมเข้ากัน จนกระทั่งเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ชิ้นส่วนกระดูกของเราจะลดลงเหลือประมาณ 206 ชิ้นเท่านั้น
รู้ไว้ใช่ว่า? การลอกคราบของมนุษย์
ไม่ใช่เพียงแค่ งู กิ้งก่า หรือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ เท่านั้นที่ลอกคราบได้ แต่มนุษย์ก็มีการลอกคราบเช่นกัน ในรูปแบบของการผลัดเซลล์ผิวเป็นขี้ไคล และเชื่อไหมว่าในปีหนึ่ง ผิวหนังของคนเราหลุดลอกออกมาถึง 0.7 กิโลกรัมเลยล่ะ
รู้ไว้ใช่ว่า? ลายลิ้นของมนุษย์
มนุษย์แต่ละคนมีลายลิ้นที่ไม่เหมือนกันเลย นอกจากลายนิ้วมือแล้ว ใครเลยจะรู้ว่าลายลิ้นของเรายังมีลักษณะเฉพาะบุคคล ไม่มีใครเหมือนกันเลย ป๊าดดด!
วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556
รู้ไว้ใช่ว่า? จักรยานยนต์ที่ใช้กัน
จักรยานยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ (อังกฤษ: motorcycle หรือ motorbike) คือยานพาหนะสองล้อที่ใช้เครื่องยนต์หรือมอเตอร์ในการขับเคลื่อน ประเภทของจักรยานยนต์ขึ้นอยู่กับลักษณะการออกแบบใช้งาน เช่น ระยะทาง สภาพจราจร การท่องเที่ยว กีฬา และ การแข่งขัน เป็นต้น
จักรยานยนต์คันแรกของโลกถูกออกแบบและสร้างโดยนักประดิษฐ์ชาวเยอรมันที่ชื่อ กอตต์ลีบ ไดม์เลอร์ (Gottlieb Daimler) จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2428 (ค.ศ. 1885) ซึ่งต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็นรถสำหรับใช้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าจะนับยานพาหนะสองล้อที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไอน้ำว่าจักรยานยนต์แล้ว ได้เกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2410 (1867) โดย Sylvester Howard Roper จาก Massachusetts
ในปี พ.ศ. 2437 (ค.ศ. 1894) Hildebrand & Wolfmüller ออกจำหน่ายจักรยานยนต์เพื่อการค้าเป็นครั้งแรก โดยปรับปรุงการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ให้ดีขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง BSA Group เป็นผู้ผลิตใหญ่ ผลิตจักรยานยนต์ 75,000 คันต่อปีในทศวรรษที่ 50 และบริษัทจากเยอรมนี Motorenwerke AG เป็นผู้ผลิตมากที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955) ถึง ทศวรรษที่ 70
รู้ไว้ใช่ว่า? เรื่องน่ารู้ของคาร์ล เบนซ์
คาร์ล เบนซ์ (อังกฤษ: Karl Friedrich Benz) (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2387 - 4 เมษายน พ.ศ. 2472) วิศวกรยานยนต์ชาวเยอรมัน และเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่าเป็นหนึ่งในผู้ประดิษฐ์รถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน (Benzine หรือ Gasoline) ขึ้น
ในปี พ.ศ. 2426 คาร์ล เบนซ์ ได้ตั้งบริษัท Benz & Co. Rheinische Gasmotoren-Fabrik ขึ้น (ซึ่งได้ภายหลังได้ร่วมกิจการกับ Daimler Motoren Gesellschaft เป็น Daimler-Benz AG และเมื่อปี พ.ศ. 2541 ก็ได้ร่วมกิจการกับ Chrysler Corporation เป็นบริษัท DaimlerChrysler แต่ปัจจุบันได้แยกกิจการออกจากกันแล้ว) และในปี พ.ศ. 2429 เขาไปสร้างรถยนต์ 3 ล้อ (tri-car) ซึ่งเป็นรถยนต์เพื่อการค้าคันแรก นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ประดิษฐ์ คลัช, คาบูเรเตอร์, และหัวเทียนขึ้นมาอีกด้วย
รู้ไว้ใช่ว่า? เครื่องบิน
เครื่องบิน คือ พาหนะสำหรับเดินทางที่สามารถเคลื่อนที่หรือบินไปในอากาศได้ (อากาศยาน) โดยเครื่องบินเป็นอากาศยานที่หนักกว่าอากาศ เครื่องบินสามารถบินได้โดยอาศัยแรงยกจากปีกตามหลักการของอากาศพลศาสตร์ (อากาศยานที่เบากว่าอากาศถูกเรียกว่า "เรือเหาะ") เครื่องบินมีทั้งแบบที่ใช้เครื่องยนต์ และไม่ใช้เครื่องยนต์ เครื่องบินแบบที่ไม่ใช้เครื่องยนต์จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า เครื่องร่อน
เครื่องบินที่มีใช้งานอยู่ทั้งสิ้นเป็นอากาศยานปีกตรึง (อังกฤษ: fixed-wing aircraft) ส่วนอากาศยานปีกหมุน/เฮลิคอปเตอร์ หรือที่บางแห่งเรียกว่า เครื่องบินปีกหมุน เป็นอากาศยานอีกชนิดหนึ่งที่มีจำนวนรองลงไป
พี่น้องไรต์ (อังกฤษ: Wright brothers) ได้แก่ ออวิลล์ ไรต์ (19 สิงหาคม พ.ศ. 2414 (ค.ศ. 1871) - 30 มกราคม พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948)) และ วิลเบอร์ ไรต์ (16 เมษายน พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1867) - 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912)) เป็นผู้ที่ยกย่องให้เป็นสองคนแรกที่ได้ออกแบบ, สร้างและเครื่องบิน เครื่องบิน ที่มีเครื่องยนต์ ต้นแบบของเครื่องบินที่ใช้ได้จริง
รู้ไว้ใช่ว่า? เฮลิคอปเตอร์
เฮลิคอปเตอร์ เป็น อากาศยาน ไม่มีปีก มีใบพัดขนาดใหญ่ติดตั้งเหนือลำตัว ใบพัดหมุนรอบตัวในแนวนอน ทำหน้าที่ช่วยพยุงตัวและบังคับให้บินไปตามทิศทางที่ต้องการได้ ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนและบินขึ้นลงในแนวดิ่งได้ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกแม้แต่ในที่แคบก็ขึ้นลงได้อย่างสบาย
เฮลิคอปเตอร์ลำแรกของโลกพัฒนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2482[1] โดยชาวอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย ชื่ออิกอร์ ซิคอร์สกี ( Igor Sikorsky) โดยใช้ชื่อว่า VS-300 ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ประกอบด้วยเหล็กท่ออย่างหนา ไม่มีผนังลำตัวปกปิด และไม่มีเครื่องวัดใด ๆ โรเตอร์หลักประกอบด้วยใบพัดสามใบ และมีโรเตอร์ท้ายเพื่อต้านแรงหมุนที่เกิดขึ้น
รู้ไว้ใช่ว่า? ธนาคารไทย
ธนาคาร (อังกฤษ: bank) คือสถาบันรับฝากเงินจากสาธารณชนทั่วไปและให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเงินฝาก แล้วนำเงินที่รับฝากไปปล่อยให้หน่วยงานเอกชนหรือรัฐบาลกู้และรับผลตอบแทนมาเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ ต่างจาก อธนาคาร (น็อนแบงค์) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร กล่าวคือไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากให้แก่ประชาชน แต่สามารถให้บริการทางการเงินเฉพาะบางประเภทที่ใกล้เคียงกัน อาทิในการให้สินเชื่อระยะสั้น
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2447 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ซึ่งตอนนั้นได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ได้ทรงก่อตั้ง
บุคคลัภย์ (Book Club) ขึ้นที่ตึกแถวของพระคลังข้างที่ ตำบลบ้านหม้อ กรุงเทพฯ ที่นี่เป็นตันกำเนิดของธนาคารแห่งแรกของไทย คือ แบงก์สยามกัมมาจล หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ในปัจจุบัน
บุคคลัภย์ (Book Club) ขึ้นที่ตึกแถวของพระคลังข้างที่ ตำบลบ้านหม้อ กรุงเทพฯ ที่นี่เป็นตันกำเนิดของธนาคารแห่งแรกของไทย คือ แบงก์สยามกัมมาจล หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ในปัจจุบัน
รู้ไว้ใช่ว่า? กีฬาโอลิมปิก
กีฬาโอลิมปิก (อังกฤษ: Olympic Games, ฝรั่งเศส: les Jeux olympiques, JO) หรือโอลิมปิกส์ (อังกฤษ: Olympics) สมัยใหม่ เป็นการแข่งขันระหว่างประเทศที่สำคัญ ทั้งกีฬาฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยมีนักกีฬาหลายพันคนเข้าร่วมการแข่งขันหลายชนิดกีฬา กีฬาโอลิมปิกถูกมองว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมีประเทศเข้าร่วมกว่า 200 ประเทศ
วิวัฒนาการของกระบวนการโอลิมปิกระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ 21 ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อกีฬาโอลิมปิกหลายประการ การปรับแก้บางอย่างรวมไปถึง การริเริ่มโอลิมปิกฤดูหนาวเพื่อแข่งขันกีฬาน้ำแข็งและฤดูหนาว กีฬาพาราลิมปิกเพื่อนักกีฬาที่มีความพิการทางร่างกาย และกีฬาโอลิมปิกเยาวชนเพื่อนักกีฬาวัยรุ่น ไอโอซีได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองและเทคโนโลยีแห่งศตวรรษที่ 20
รู้ไว้ใช่ว่า? โรงภาพยนตร์ไทย
โรงภาพยนตร์ หรือ โรงหนัง เป็นสถานที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับชมภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่สร้างขึ้นเพื่อทำธุรกิจ ให้สาธารณชนจ่ายค่าผ่านประตูเข้ามารับชม ฟิล์มภาพยนตร์จะถูกฉายจากเครื่องฉาย ให้ปรากฏภาพบนจอ ที่ด้านหน้าของบริเวณที่นั่งชมภายในโรงภาพยนตร์ โดยนิยมสร้างที่นั่งบนพื้นแบบขั้นบันไดไล่ระดับ จากด้านหลังลงไปยังด้านหน้า
ปัจจุบันนิยมสร้างขึ้นภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และโรงภาพยนตร์มีขนาดเล็กรวมกันหลายโรง ตั้งแต่ 2-16 โรงในบริเวณเดียวกัน จำนวนที่นั่งในโรงตั้งแต่ 48 ที่นั่ง/โรง ไปจนถึง 2,000 ที่นั่ง/โรง
ราคาค่าชมภาพยนตร์ ในเขตกรุงเทพมหานคร เริ่มที่ 80,90,100,120 /1 ที่นั่ง สำหรับที่นั่งปกติ 110,120,140,160,170,180 /1ที่นั่ง สำหรับที่นั่งพิเศษหรือที่นั่งแถวบนสุดในบางโรงภาพยนตร์ 220,250,300,500,600,1500/1ที่นั่ง สำหรับที่นั่งแบบพิเศษหรือแบบโซฟาปรับนอนได้ในโรงภาพยนตร์เฉพาะส่วนราคาบัตรชมภาพยนตร์ในต่างจังหวัด จะเริ่มต้นที่ราคา 40 บาทไปจนถึง 120 บาท /1ที่นั่ง และ 250-300 บาท/1 ที่นั่ง ในโรงภาพยนตร์ที่มีที่นั่งพิเศษในบางจังหวัด
รู้ไว้ใช่ว่า? คอมพิวเตอร์เครื่องแรก
คอมพิวเตอร์ (อังกฤษ: computer) มาจากภาษาละตินว่า Computare หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์ ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ
ประวัติคอมพิวเตอร์มีมานานแต่ที่เริ่มเข้าสู่ยุคใช้กลไกอิเล็กทรอนิกส์ภายในคอมพิวเตอร์นั้น เริ่มเมื่อราว พ.ศ. 2483 เมื่อมีการสร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้เป็นเครื่องแรกชื่อ ENIAC (electronic numerical integrator and calculator) ที่มหาวิทยาลัยเพนน์ซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
ราว พ.ศ. 2491 วิลเลียม ช็อคเลย์ (William Shockley) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ทำการวิจัยและสามารถประดิษฐ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า ทรานซิสเตอร์ (Transistor) จากสารกึ่งตัวนำได้
ประมาณปี พ.ศ. 2508 วงการเทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงที่สามารถสร้างทรานซิสเตอร์หลายๆ ตัวให้อยู่บนแผ่นซิลิคอนขนาดตารางมิลลิเมตรได้ เรียกว่า วงจรรวมหรือไอซีนั่นเอง
รู้ไว้ใช่ว่า? เครื่องคิดเลขในปัจจุบัน
เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ มักเรียกโดยย่อว่า เครื่องคิดเลข หรือ เครื่องคำนวณ คือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับดำเนินการทางเลขคณิตพื้นฐานหรือซับซ้อน มักมีขนาดเล็ก พกพาได้ และราคาไม่แพง เครื่องคิดเลขสมัยใหม่พกพาสะดวกกว่าคอมพิวเตอร์เป็นส่วนมาก อย่างไรก็ตาม พีดีเอก็มีขนาดพอ ๆ กับเครื่องคิดเลขมือถือและอาจมีบทบาทเข้ามาแทนที่
เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์แบบโซลิดสเตตเครื่องแรกผลิตขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 ซึ่งสร้างโดยใช้หลักการของเครื่องมือคำนวณในประวัติศาสตร์ อย่างเช่นลูกคิดที่ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล และเครื่องคิดเลขเชิงกลที่ประดิษฐ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้น เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์มีพัฒนาการควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์แอนะล็อกในสมัยนั้น
รู้ไว้ใช่ว่า? ที่มาของเข็มกลัด
เข็มกลัดประดับ (อังกฤษ: Brooch หรือ broach) หรือในสมัยโบราณเรียกว่า “เข็มกลัดตรึง” หรือ“เข็มกลัดฟิบิวลา” เป็นเครื่องประดับที่ทำด้วยอัญมณีที่ออกแบบเพื่อใช้ติดประดับเสื้อผ้า เข็มกลัดประดับมักจะทำด้วยโลหะที่มักจะเป็นเงิน หรือ ทอง แต่บางครั้งก็ทำด้วยสำริดหรือวัสดุอื่น เข็มกลัดประดับมักจะแตกแต่งด้วยเครื่องเคลือบหรืออัญมณี บางครั้งก็จะใช้สอยในการตกแต่งเท่านั้น หรือบางครั้งก็จะมีประโยชน์ใช้สอยด้วยเช่นใช้ในการตรึงเสื้อผ้าให้ติดตัว หรือ หรือสำหรับเสื้อคลุมปล่อยชาย (cloak)
เข็มกลัดประดับแรกที่สุดมาจากยุคสำริด แต่เพราะลักษณะของเข็มกลัดประดับมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามแฟชันทำให้กลายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการใช้ระบุยุคสมัยในประวัติศาสตร์
รู้ไว้ใช่ว่า? กำเนิดตัวอักษร
ประวัติศาสตร์ของอักษร ชนิดแทนหน่วยเสียงมีจุดเริ่มต้นอยู่ในอียิปต์โบราณ อักษรแทนหน่วยเสียงชนิดแรกเป็นอักษรไร้สระ ปรากฏเมื่อ 1,457 ปีก่อนพุทธศักราช ซึ่งเป็นผลงานของแรงงานชาวเซมิติกในอียิปต์ เพื่อใช้เขียนภาษาของตนเอง โดยได้รับอิทธิพลจากอักษรที่ใช้แทนเสียงพยัญชนะซึ่งใช้คู่กับอักษรคำในอักษรไฮโรกลิฟฟิก อักษรอื่นๆ ที่ใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่พัฒนามาจากอักษรนี้รวมทั้งอักษรฟินิเชีย อักษรกรีก และอักษรละติน
และมีชาวฟินิเชียนได้ปรับปรุงแก้ไขตัวอักษรและนำไปใช้ติดต่อค้าขายกันอย่างกว้างขวาง และได้มีการดัดแปลงตัวอักษรกัรต่อมาจนกลายเป็นตัวอักษรที่ใช้กันในปัจจุบัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)